5 ข้อต้องรู้ ก่อนเลือกทีมออกแบบบ้าน หรือสถาปนิก

การสร้างบ้านนั้นจำเป็นต้องวางแผนหลายๆ อย่าง ตั้งแต่ความต้องการในการสร้างบ้านของเรา ว่าต้องการแบบบ้านแบบไหน อย่างไร ต้องการบ้านกี่ชั้นมีรูปแบบใดที่เป็นลักษณะเฉพาะ เมื่อออกแบบเสร็จแล้วก็ถึงคราวที่ต้องคุยกับทีมออกแบบบ้านหรือสถาปนิก ที่เราจะเลือกเฟ้นมาเพื่อสร้างบ้านของเราในลำดับต่อไป

หากใครยังไม่ทราบรายละเอียดว่าต้องเริ่มแบบไหนบ้าง ขอแนะนำ 5 ข้อต้องรู้ก่อนที่จะเริ่มต้นสร้างบ้าน บ้านที่สวยงามในอนาคตต้องมีการวางแผนก่อน ก่อนที่จะออกมาเป็นตัวบ้านที่ชัดเจนนะครับ

อยากได้แบบบ้านทรงไหน

การเลือกบ้านที่จะอยู่อาศัยเราต้องกำหนดสไตล์ของบ้านก่อนว่าต้องการแบบไหน สำหรับคนไทยเราแล้วคงจะกำหนดได้ไม่ยาก เพราะส่วนใหญ่จะสร้างบ้านตามที่ญาติผู้ใหญ่เคยสร้างกันมา ทั้งบ้านทรงไทยไม้ 2 ชั้น บ้านเดี่ยวชั้นเดียว หรือบ้านปูนทั้งหลังในแบบ 2 ชั้น เป็นต้น ในขณะที่คนในเมืองส่วนใหญ่สนใจบ้านทรงต่างๆ เช่นบ้านสไตล์มินิมอลที่ให้ความสบายใจในการอยู่อาศัย บ้านไตล์ลอฟท์คงทนแข็งแรงดูมั่นคง รวมไปถึงบ้านไตล์นอร์ดิกกระโมที่มองเห็นได้ง่ายจากภายนอก

ตั้งงบไว้ก่อน 1 ก้อน

การสร้างบ้านหลักแรกนั้นต้องสัมพันธ์กับงบประมาณที่เรามีด้วย ไม่ว่าเราจะกู้เงินมาซื้อบ้าน หรือเก็บเงินสดใว้สร้างบ้านโดยเฉพาะ การเปิดเผยต้นทึนกับสถาปนิกก็จะช่วยให้การสร้างบ้านนั้นมีงบตั้งต้นที่พอจะประเมินระยะเวลาได้อย่างแน่นอน

เลือกสถาปนิกให้เหมาะกับการออกแบบบ้าน

ขั้นต่อมาคือการเลือกสถาปนิก ช่างออกแบบบ้าน และทีมงาน ซึ่งตรงนี้สามารถเลือกได้ตามความชอบและความเหมาะสม บางคนอาจมีคนรู้จักที่ทำงานในด้านนนี้มาก่อนแล้วจึงไม่ใช่เรื่องยากในการคุยงาน แต่บางคนอยากได้ช่างที่มีฝีมือในการสร้างบ้านในแต่ละสไตล์ เพื่อให้ตอบรับกับแบบบ้านและสไตล์ของบ้านที่คนสร้างต้องการด้วย

กำหนดขอบเขตงาน

แบบบ้านและราคาของบ้านคือตัวกำหนดระยะเวลาในการสร้าง บวกกับการคาดการณ์ในการเริ่มต้นสร้างบ้าน ก็จะสามารถคำนวณระยะเวลาในการสร้างบ้านคร่าวๆ ได้ การกำหนดขอบเขตของงานนั้นต้องเป็นไปตามที่ช่างเห็นสมควร ว่าจะดำเนินงานไปในรูปแบบไหน เริ่มต้นอย่างไรและใครทำหน้าที่อะไรบ้าง

ขอดูเอกสาร สัญญาจ้าง

เอกสารสัญญาจ้างคือการตรวจสอบขั้นสุดท้ายสำหรับการเริ่มต้นสร้าง สถาปนิกควรเตรียมไว้ให้พร้อมสำหรับงานที่จะทำต่อไป เพราะบางคนนั้นอาจเคยออกแบบบ้านมาเยอะแล้ว แต่เป็นคนละแนวกับที่เราต้องการ รวมไปถึงการดูรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆในเนื้องานด้วย ซึ่งจะช่วยให้เราสบายใจในอีกขั้นตอนหนึ่งเมื่อเห็นสัญญาจ้าง และเอกสารต่างๆ ของบริษัทอกแบบบ้านนั้นๆ

การสร้างบ้านนั้นต้องเผื่องบประมาณฉุกเฉินเอาไว้ด้วยอีกทางหนึ่ง เพื่อป้องกันงบที่บานปลายในระหว่างการสร้างบ้าน ช่างที่ดีควรจะสร้างบ้านในแปลนที่ได้วางกันเอาไว้และเจ้าบ้านที่ดีก็ไม่ควรจะมาแก้แบบของบ้านในภายหลัง ยกเว้นแต่ว่าจะเป็นความต้องการจริงๆ ของเจ้าของบ้านที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลและแก้ไขงานบางอย่างเพื่อให้บ้านนั้นสมบูรณ์ได้มากยิ่งขึ้นไปอีก